ต้อกระจก ความผิดปกติทางสายตาที่เกิดจากอาการพร่ามัว หรือการมองภาพเบลอซ้อนกัน ที่ไม่สามารถใช้สายตาในขณะที่โฟกัสภาพจุดใดจุหนึ่งได้ในชั่วขณะ ซึ่งผู้ป่วยหลายรายที่กำลังเผชิญกับปัญหาด้านการมองเห็นในลักษณะข้างต้น อาจจะเข้าสู่การเป็นต้อประจกในระยะเริ่มต้น ซึ่งหลายคนมักจะมีคำถามตามมาว่าการเป็นต้นต้อกระจกนั้นจะมีวิธีการรักษาอย่างไร วันนี้เราจะมาไขข้อข้องใจให้ทุกคนได้คลายความกังวลนี้ไปพร้อม ๆ กัน
ต้อกระจก เป็นอย่างไร จะมีวิธีการรักษาได้หรือไม่
โรค ต้อกระจก (Cataract) เป็นโรคที่เกิดจากความเสื่อมสภาพของโปรตีนที่เป็นส่วนสำคัญในการทำงานของเลนส์ตา เกิดจากภาวการณ์ตกตะกอนที่ส่งผลให้เลนส์ตานั้นขุ่นมัว โดยมีผลข้างเคียงทำให้วิสัยทัศน์ของดวงตาของผู้ป่วยนั้นเห็นภาพได้ไม่ชัดเจน จนเกิดภาพเบลอและไม่โฟกัสกับสิ่งที่จดจ้อง และทำให้ประสิทธิภาพของการมองเห็นนั้นไม่คมชัดนั่นเอง ผู้ป่วยในระยะเริ่มต้นสามารถรักษาได้โดยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของการใช้ชีวิตได้อย่างสม่ำเสมอในกรณีที่ต้อกระจกอยู่ในช่วงต้อสุกนั่นเอง
วิธีการรักษาโรค ต้อกระจก
สำหรับวิธีการรักษาโรค ต้อกระจก แพทย์จะมีทางเลือกให้ผู้ป่วยได้เลือกทั้งหมด 3 วิธีด้วยกันคือ
1. การรักษาโดยไม่ต้องผ่าตัด
ผู้ป่วยในระยะเริ่มต้นสามารถหลีกเลี่ยงไม่ผ่าตัดได้ แต่ผู้ป่วยจะต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้สายตาตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด พร้อมกับใช้อุปกรณ์ถนอมสายตา ป้องกันผลข้างเคียงที่อาจก่อให้เกิดต้อกระจกนั่นเอง
2. การรักษาโดยการผ่าตัด
สำหรับทางเลือกที่ 2 ของการรักษาโรค ต้อกระจก นั้นก็คือการผ่าตัดนั่นเอง โดยหลัก ๆ แล้วจะมีให้เลือกอยู่ทั้งหมด 2 รูปแบบคือ การสลายต้อกระจกด้วยคลื่นอัลตร้าซาวด์ (Phacoemulsification) และผ่าตัดต้อกระจกแบบเปิดแผลกว้าง (Extracapsular Cataract Extraction) ซึ่งแพทย์จะเลือกวิธีใดวิธีหนึ่งตามระยะเวลาการเกิดของต้อกระจกของผู้ป่วยรายนั้น
3. การรักษาโดยการผ่า ร่วมกับการฟื้นฟูค่าสายตา
โดยแพทย์จะทำการรักษาโรค ต้อกระจก และการรักษารักษาค่าสายตา ควบคู่กันไปในทีเดียว โดยกระบวนการก็คือการผ่าตัดโดยใช้เลนส์เทียม โดยคุณสมบัติของเลนส์ก็คือเลนส์ค่าสายตามาใส่แทนเลนส์ตาที่เกิดความผิดปกติส่งผล หลังการผ่าตัดให้ผู้ป่วยจะสามารถมองเห็นได้ปกติดังเดิม และยังสามารถมองเห็นด้วยค่าสายตาที่เป็นปกติอีกด้วย
อย่างไรก็ตามหากผู้ป่วยเริ่มที่อาการมองเห็นภาพที่ผิดปกติ หรือภาพที่เบลอ หรือมีความกังวลว่าตัวเองอาจมีอาการโรค ต้อกระจก ตามที่ได้กล่าวมาในข้างต้นแล้วละก็ ผู้ป่วยควรที่จะเข้ารับการปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับคำวินิจฉัย และการรักษาที่ถูกต้องเพื่อหลีกเลี่ยงโอกาสที่จะเกิดขึ้นกับตัวคุณได้ในอนาคต